ข้อตกลงการค้าเสรีหนุนอุตฯรถยนต์ไทย ผลักดันการลงทุนและการส่งออกของรถยนต์และชิ้นส่วนไทยเพิ่มขึ้นกว่า 8.5 พันล้าน
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันค่ายรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน โดยเฉพาะค่ายญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะปรับรูปแบบกระบวนการผลิตจากเดิม เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้มากขึ้น ส่งผลให้การเลือกหาฐานการผลิตเพื่อรองรับต่อรูปแบบการผลิตใหม่ดังกล่าวมีความสำคัญขึ้นมา และหนึ่งในปัจจัยที่นักลงทุนใช้เลือกประเทศฐานการผลิตรูปแบบใหม่ คือ การมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศฐานผลิตอื่นนอกภูมิภาคมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเข้าร่วมกลุ่มการค้าเสรี เช่น CPTPP อาจช่วยขยายโอกาสในการลงทุนและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังญี่ปุ่นและเม็กซิโกได้มากขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงการค้าที่เข้มข้นขึ้นของทั้ง 2 ทวีป คือ อเมริกา ซึ่งมีเม็กซิโกและแคนาดา และเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น
ส่วนไทยมีโอกาสจะพัฒนาขึ้นไปเป็นฐานผลิตชิ้นส่วนในห่วงโซ่อุปทานของทั้ง 2 กลุ่มนี้มาก โดยเฉพาะเมื่อค่ายรถนิยมใช้แพลตฟอร์มร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ไทยยังมีโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์ไปเม็กซิโกเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังเม็กซิโกต้องปรับลดภาษีลงเหลือร้อยละ 0 ซึ่งคาดว่าหากไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม CPTPP ไทยน่าจะมีโอกาสส่งออกรถยนต์ได้มากขึ้นเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 8,500 ล้านบาท และส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท
ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเกิดได้ต่อเมื่อการแสดงท่าทีของรัฐบาลในการเข้าร่วมเจรจานั้นไม่ล่าช้าจนเกินไป และการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ายังเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
"ชิ้นส่วน" - Google News
August 31, 2020 at 07:02PM
https://ift.tt/32DZZbj
ข้อตกลงการค้าหนุน "อุตชิ้นส่วน" ลั่นปี63 มูลค่ารวมทะลุ 8.5 พันล้าน - ประชาชาติธุรกิจ
"ชิ้นส่วน" - Google News
https://ift.tt/2Xuq0IV
No comments:
Post a Comment